Monthly Archives: February 2013

10 อันดับงูที่มีพิษที่สุดในโลก

10 Jararacussu ( Bothrops Jararacussu )

ปล่อยพิษครั้งละ 800 มิลลิกรัมต่อการกัด 1 ครั้ง พิษการกัด 1 ครั้ง สามารถทำให้คนตายได้ 32 คน พบที่ประเทศ อาร์เจนติน่า โบลิเวีย บราซิล และ ปารากวัย

9 Tiger Snake ( Notechis Scutatus )

พบที่ ออสเตรเลีย เกาะทาสมาเนีย หมู่เกาะแถบช่องแคบบาส และ เกาะนิวกินี

8 Multibanded krait ( Bungarus Multicinctus )

พบน้อยตามธรรมชาติ เหยื่อมักเป็นชาวประมง พบแถบทะเลจีนใต้ จีน ไต้หวัน วานูอาตู ฟิจิ

7 Yellow Jawed Tommygoff ( Bothrops Asper )

พบที่ ตอนใต้ของเม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้

6 Black Mamba ( Dendroaspis Polylepis ) แบล็กแมมบ้า

เป็นงูพิษที่ดุ และยังเคลื่อนไหวเร็วที่สุดในโลก (16-18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ) พบที่ทุ่งหญ้าซาวันน่า และป่าโปร่งของทวีปแอฟริกา

5 Russell’s Viper ( Vipera Russellii ) งูแมวเซา

พบตั้งแต่ ศรีลังกา จีนตอนใต้ อินเดีย คาบสมุทรอินโดจีน เกาะสุมาตรา เกาะชวา เกาะบอร์เนียว

4 King Cobra ( Ophiophagus Hannah ) งูจงอาง

เป็นงูพิษที่ใหญ่ที่สุดในโลก พบที่ ไทย มาเลเซีย จีนตอนใต้ อินเดียตอนใต้ และ ฟิลิปปินส์

3 Philippine Cobra ( Naja Philippinensis )

จะดุร้ายถ้าไปรบกวนมัน(ส่วนใหญ่งูพิษนิสัยจะเป็นอย่านี้แหละ) พบที่ประเทศฟิลิปปินส์

2 Common Indian Krait ( Bungarus Caeruleus )

มีพิษเป็น 15 เท่าของ งูตระกูลงูเห่า/จงอาง โดยทั่วไป พบที่ ปากีสถาน อินเดีย ศรีลังกา

1 Inland Taipan ( Oxyuranus Microlepidotus )

ตามรายงานโดนกัดไม่ได้รับการรักษา มักเสียชีวิตไม่เกิน2-3 ชม. ส่วนน้อยมากที่ไม่ได้รับการรักษา จะกลับมารอดชีวิต กัดครังหนึ่งมีพิษปริมาณ 110 มิลลิกรัม แต่เพียง 2-3 มิลลิกรัม สามารถฆ่าคนได้มากกว่า100คน หรือหนูมากกว่า250,000ตัว พบที่ออสเตรเลียตอนกลาง

ไดโนเสาร์

ประวัติของไดโนเสาร์

เมื่อหลายล้านปีก่อนโลกได้กำเนิดสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ขึ้นมาบนโลก มี หลายเผ่าหลายพันธุ์สาย ทั้งประเภทกินเนื้อและกินพืชเป็นอาหาร ต่างฝ่ายก็มีหลายเผ่าหลายพันธุ์สาย ทั้งประเภทกินเนื้อและกินพืชเป็นอาหาร ต่างฝ่ายก็ซึ่งต่างก็ได้รับสมญานามว่าเป็นนักล่า โดยเฉาะ ทีแร็กซ์ และแร็พเตอร์ นับว่าเป็นนักล่าในยุคจูลลาสสิค และฝ่ายหาอาหารจากพืชก็จะมีสิ่งป้องกันบางอย่างเพื่อเป็นเกราะคุ้มครองของตน เอง เช่นหนามที่แหลมคม พวกนี้จะไม่ทำอันตรายพวกอื่นก่อนถ้าไม่ถูกรบกวนหรือถูกรุกรานก่อน แต่แล้วสายพันธุ์ของไดโนเสาร์ก็ต้องสิ้นสุดลงเพราะต้องเผชิญกับหายนะอันใหญ่ หลวงของโลกจากกลุ่มหินอุกกาบาตที่เข้าถล่มโลกอย่างบ้าคลั่ง ทำให้สิ่งมีชีวิตต้องจบสิ้นลงไปด้วยเพราะไม่อาจทนความร้อนได้ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเขม่าและควันไฟที่โพยพุ่ง โลกเต็มไปด้วยความมืดมิดไม่มีแสงสว่าง และเป็นเช่นนั้นอยู่หลายปีและโลกเริ่มเย็นขึ้นๆเรื่อยๆ และต่อมาก็เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ เริ่มเข้ายุคใหม่ที่เริ่มก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิตยุดใหม่เข้ามาแทนที่สัตว์ใหญ่ ที่เคยครองโลกอยู่คงเหลือแต่ซากเถ้ากระดูกและฟอสซิลให้เห็นมาจนตราบทุก วันนี้